รีวิว ลำโพง Bose Smart Soundbar 900

หากจะให้พูดถึงแบรนด์เครื่องเสียงที่อยู่คู่กับผู้ใช้งานมาอย่างยาวนาน โดยที่ยังคงคาแรคเตอร์อันโดดเด่นของแบรนด์เอาไว้ได้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นจุดเด่นในเรื่องของรูปร่างหน้าตาของตัวสินค้าที่มีความโดดเด่น หรูหรา พรีเมียม อัดแน่นมาด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันและทันสมัย ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมแนวเสียงที่ยอดเยี่ยมจนได้รับการยอมรับกันในวงการว่าเป็นแบรนด์ที่ให้แนวเสียงที่ยอดเยี่ยมในอันดับต้นๆ แน่นอนว่าชื่อของแบรนด์ Bose จะต้องขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน โดยแบรนด์ Bose เองก็มีสินค้ามากมายหลากหลาย Categories ด้วยกัน และในบรรดาหลากหลาย Categories ของแบรนด์ Bose นั้น สินค้าประเภท Soundbar ก็เป็นอีกหมวดสินค้าที่ทาง Bose ทำได้อย่างๆ ยอดเยี่ยมไม่แพ้แบรนด์ไหนๆ โดยเฉพาะ ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 ที่เรียกได้ว่าเป็น ลำโพง Soundbar รุ่นเรือธง พร้อมอัดแน่นมาด้วยฟังก์ชันการใช้งานแบบจัดเต็มรวมถึงแนวเสียงที่ยอดเยี่ยมสไตล์ Bose รวมถึงยังสามารถขับเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos ได้ในตัวโดยไม่ต้องต่อลำโพงอะไรเพิ่มอีกด้วย โดย ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 จะโดดเด่นแค่ไหน และมีฟังก์ชันใดเด่นๆ บ้างนั้น เรามาดูรีวิวเต็มๆ กันเลยครับ

Key-Highlight

ลำโพง Soundbar รูปทรงสุดเรียบหรูสไตล์ Bose
ระบบเสียงรอบทิศทางแบบสมจริงโดยไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่ม
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ภายในตัว
รองรับผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ Alexa และ Google Assistant
Voice4Video สั่งงานการเล่น VDO ด้วยเสียงผ่าน Alexa
รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Bose Smart Speakers
ควบคุมและตั้งค่าผ่าน Bose Music App
รองรับการเชื่อมต่อครบถ้วนทั้งไร้สายและมีสาย
รองรับการเชื่อมต่อ Bass Module และ Surround Speaker
ADAPTiQ technology ปรับทิศทางการขับเสียงให้เข้ากับห้อง
SimpleSync™ เชื่อมต่อไร้สายกับลำโพงและหูฟัง Bose

การเชื่อมต่อ

Wifi
Ethernet
Bluetooth 4.2
HDMI eARC
Optical
AUX/3.5 mm.
ADAPTiQ input

อุปกรณ์ภายในกล่อง

1 x Bose Smart Soundbar 900
1 x รีโมท (พร้อมรีโมท AAA 2 ตัว)
1 x ชุดหูฟัง ADAPTiQ
1 x สาย Optical
1 x สาย HDMI
1 x สายไฟ
1 x คู่มือการใช้งาน
ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 หน้าจอทีวี
ลำโพง Soundbar รุ่นเรือธงพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ภายในตัว
จุดเด่น Bose Smart Soundbar 900
ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 ความยาว 42 นิ้ว
หน้าตาสุดเรียบหรู พรีเมียม สไตล์ Bose

ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 เป็นลำโพง Soundbar ในระดับเรือธงหรือ Flagship จากแบรนด์ Bose เป็นลำโพงซาวด์บาร์อัจฉริยะที่มาพร้อมรูปร่างหน้าตาสุดเรียบหรู พรีเมียม ซึ่งพูดได้ว่าเป็นการออกแบบตามสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Bose ก็ว่าได้ โดยมาพร้อมขนาดที่เรียกได้ว่ากำลังดี ใช้เนื้อที่ในการตั้งวางไม่มากนักเพียง H: 2.29 x W: 41.14 x D: 4.21 นิ้ว เท่านั้น รวมถึงยังสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายด้วยน้ำหนักที่กำลังดีเพียง 5.75 กิโลกรัมเท่านั้น

การเชื่อมต่อที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

สำหรับการเชื่อมต่อของ ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 ก็ต้องบอกเลยว่าตอบโจทย์การใช้งานในทุกกิจกรรม ทั้งการเชื่อมต่อไร้สาย และการเชื่อมต่อแบบมีสาย โดยการเชื่อมต่อไร้สายนั้นเชื่อมต่อผ่าน Wifi และ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2 สำหรับการเชื่อมต่อกับ Smartphone และอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ โดยให้ระยะการเชื่อมต่อที่ไกลถึง 10 เมตรโดยไม่มีอะไรกั้น ส่วนการเชื่อมต่อแบบมีสายรองรับ HDMI eARC และ Optical สำหรับเชื่อมต่อกับ TV

รองรับการ Streaming และ Simple Sync

แน่นอนว่า ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wifi และมีสายผ่าน Ethernet จึงทำให้ตัวลำโพงรองรับการใช้งาน Streaming ผ่านการเชื่อมต่อ Internet Network อย่างครบครันทั้ง Chromecast, Apple AirPlay 2, และ Spotify Connect รวมถึง ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 ยังรองรับการเชื่อมต่อเข้ากับลำโพง Bose smart speakers ผ่าน Wifi และรองรับการเชื่อมต่อกับ หูฟังและลำโพง Bose ผ่าน Simple Sync อีกด้วย

รองรับผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะและ Voice4Video

ภายใน ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 ยังมาพร้อมไมโครโฟนแบบ Microphone array ที่ออกแบบมาเพื่อรับเสียงในทุกสถานการณ์ ทำให้ ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 รองรับการใช้งานผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะทั้ง Alexa และ Google Assistant ที่สามารถสั่งการได้ในทุกสถานการณ์ที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Voice4Video ที่สามารถใช้คำสั่งเสียงสั่งการ การเล่นวิดีโอผ่าน Alexa ได้ตลอดเวลาแม้ขณะที่กำลังรับชมภาพยนตร์อยู่ก็ตาม

วัสดุของ Bose Smart Soundbar 900

ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 เป็น ลำโพงซาวด์บาร์จากแบรนด์ Bose ที่จัดอยู่ในระดับพรีเมียมหรือเรียกว่ารุ่นเรือธงในบรรดาลำโพง Soundbar จากแบรนด์ Bose นั่นเอง และแน่นอนว่าด้วยความเป็นสินค้าจากแบรนด์ Bose ทำให้เรื่องของวัสดุนั้นให้มาแบบจัดเต็มและเลือกเฉพาะวัสดุระดับพรีเมียมเท่านั้น โดยส่วนของตัวลำโพงนั้นเลือกใช้เป็นวัสดุแข็งผิวด้าน ที่ภาพรวมดูพรีเมียมสมกับที่เป็นลำโพง Bose ส่วนที่โดดเด่นคือพื้นผิวด้านบนของตัวลำโพงที่เลือกใช้วัสดุกระจกเงาสุดพรีเมียม ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของแบรนด์มาในรุ่นต่อรุ่น ส่วนตะแกรงด้านหน้าเลือกใช้เป็นตะแกรงโลหะที่ไม่เพียงขับเสียงได้ครบถ้วนทุกย่านเสียงเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันยังให้ความรู้สึกที่หรูหรารวมถึงยังมีความทนทานแข็งแรงสูงมากๆ ด้วยเช่นกัน

ดีไซน์ Bose Smart Soundbar 900

ด้านดีไซน์ของ ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 เป็นทรงแท่งยาวแบบมาตรฐานที่มีการใส่เอกลักษณ์ความเป็น Bose ลงไปอย่างเต็มเปี่ยม โดยตะแกรงเสียงนั้นล้อมรอบที่ด้านข้างของลำโพงจากด้านซ้ายไปขวา โดยที่เหลือพื้นที่ไว้สำหรับเป็น Port เชื่อมต่อ ที่ด้านหลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยตะแกรงที่ล้อมรอบตัวลำโพงนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้มิติเสียงแบบรอบทิศทางที่สมจริงนั่นเอง นอกจากนี้ที่ด้านบนของตัวลำโพงยังมีตะแกรงที่ด้านซ้ายและด้านขวาเพื่อการยิงเสียงขึ้นเพดานสำหรับการขับเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos เพื่อมิติเสียงที่สมจริงแบบครบจบในตัวเดียวโดยไม่ต้องจ่อลำโพงเพิ่มหลายตัวครับ

ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 มาพร้อมความยาวที่ราวๆ 42 นิ้ว ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานกับ TV ขนาด 40 นิ้วขึ้นไป โดยสามารถวางไว้หน้า TV ได้สบายๆ ด้วยความลึกของตัวลำโพงที่ไม่มากนักเพียง 4.21 นิ้วทำให้สามารถวางไว้บนโต๊ะวาง TV ได้สบายๆ โดยไม่เกะกะหรือกินเนื้อที่จนเกินไป และด้วยตัวลำโพงที่มีสีดำล้วนจึงทำให้ตอบโจทย์การใช้งานกับ TV ทั้งสีดำและสีเงินทุกรุ่นทุกแบรนด์ รวมถึงยังมีน้ำหนักเพียง 5.75 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถือได้ว่าไม่หนักมากตอบโจทย์การวางไว้บนโต๊ะวาง TV หรือโต๊ะหน้า TV ในกรณีที่ TV อยู่ติดผนัง หรือจะติดผนังไว้ใต้ TV ก็ดูเข้ากันดีครับ

การเชื่อมต่อกับ Bose Smart Soundbar 900

สำหรับการเชื่อมต่อของ ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 นั้นตามที่กล่าวไว้ข้างต้นคือรองรับทั้งการเชื่อมต่อไร้สายและมีสาย แบ่งออกได้ดังนี้

เชื่อมต่อผ่าน Wifi และ Ethernet: การเชื่อมต่อสำหรับการใช้งาน Streaming ผ่าน App ต่างๆ เช่น Chromecast, Apple AirPlay 2 และ Spotify Connect เป็นต้น รองรับการใช้งานผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะทั้ง Alexa และ Google Assistant ที่ต้องใช้สัญญาณ Internet ในการใช้งาน และรองรับการเชื่อมต่อไร้สายเข้ากับลำโพง Bose Smart Speaker แบบไร้สายผ่านสัญญาณ Wifi ด้วยเช่นกัน โดยการตั้งค่าการใช้งานหรือ Setup ก็ง่ายดายมากๆ ด้วยเช่นกัน โดยสามารถตั้งค่าได้ผ่านแอป Bose Music App และยังใช้งานแอปในการควบคุมลำโพงได้อีกด้วย โดยตัวแอปรองรับการใช้งานทั้ง iOS และ Android ครับ

เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.2: การเชื่อมต่อไร้สายสำหรับใช้งานฟังเพลง ดูหนัง และเล่นเกม ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับเช่น Smartphone และอุปกรณ์การเล่นเพลงต่างๆ ที่รองรับ Bluetooth โดยให้สัญญาณที่เสถียร เชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตรโดยไม่มีอะไรกั้น ไม่มีอาการดีเลย์มารบกวนในขณะรับชมภาพยนตร์และเล่นเกมออนไลน์ รวมถึงยังรองรับการใช้งานเทคโนโลยี SimpleSync™ สำหรับการเชื่อมต่อกับ ลำโพง Bose และหูฟัง Bose รุ่นที่รองรับ

เชื่อมต่อมีสายผ่าน AUX/3.5 mm., HDMI eARC และ Optical: ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 ยังคงตอบโจทย์การใช้งานแบบมีสายอย่างครบถ้วนด้วยเช่นกัน ทั้งการเชื่อมต่อเข้ากับ TV ผ่าน HDMI eARC และการเชื่อมต่อเสียงคุณภาพสูงผ่าน Optical หรือจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มาพร้อมการเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านสาย AUX/3.5 mm. ก็ยังได้ด้วยเช่นกันครับ

การควบคุม Bose Smart Soundbar 900

การควบคุมหลักๆ ของ ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 จะผ่านรีโมทสำหรับควบคุมที่ให้มาด้วยโดยสามารถควบคุมได้อย่างครบครันทั้งเลือกการเชื่อมต่อ, เพิ่ม-ลดเสียง, Mute เสียง, ควบคุมการเล่นเพลงและเปลี่ยน Preset เสียงที่มีให้เลือกถึง 6 Presets หรือจะควบคุมผ่านแอป Bose Music App หรือควบคุมผ่าน Smartphone ขณะที่กำลังเชื่อมต่อแบบไร้สายอยู่ก็ได้ด้วยเช่นกัน โดยที่ตัวลำโพงจะมาพร้อมปุ่ม Action Button สำหรับเรียกใช้งานผู้ช่วยเสียง และปุ่มสำหรับเปิด-ปิดไมค์เท่านั้นครับ

ไมโครโฟน Bose Smart Soundbar 900

ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 มาพร้อมไมโครโฟนสำหรับการรับเสียงสั่งการผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะทั้ง Alexa และ Google Assistant ที่ได้กล่าวไปข้างต้น โดยตัวไมค์สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัดและมีระยะการรับเสียงที่กว้างกว่าไมโครโฟนทั่วๆ ไป รวมถึงยังมาพร้อมเทคโนโลยีพิเศษ Voice4Video เทคโนโลยีพิเศษจากแบรนด์ Bose ที่จะขยายระยะการรับเสียงของ Alexa ให้กว้างออกไป และรับเสียงสั่งการในการควบคุม TV เปลี่ยนช่อง Cable หรือกล่องดาวเทียมของคุณ โดยรับเสียงได้ตลอดเวลาที่ต้องการสั่งการแม้กระทั่งขณะที่กำลังเล่น Video อยู่ก็สามารถสั่งการได้ไม่มีปัญหา

ด้านการใช้งานรับสายสนทนาโทรศัพท์จากที่ทีมงานได้ทดสอบพบว่าตัวลำโพงสามารถรับเสียงได้อย่างครบถ้วนทุกการสนทนาและรับเสียงได้อย่างคมชัด แม้จะสนทนาในขณะที่ภายในห้องมีเสียงรบกวน โดยการสนทนาภายในห้องเงียบจะรับเสียงจากผู้พูดได้ชัดเจน แม้จะยืนอยู่ห่างจากตัวลำโพงพอประมาณ และหากภายในห้องมีเสียงรบกวนเข้ามา เสียงรบกวนหรือเสียงแทรกจะถูกลดลงจนแทบไม่ได้ยินและคงเหลือแต่เพียงเสียงของผู้พูดที่คมชัด ตรงนี้ต้องบอกเลยว่า Bose ทำมาได้เป็นอย่างดีครับ

รีวิวเสียงจาก Bose Smart Soundbar 900
ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 มาพร้อมแนวเสียงที่ต้องบอกเลยว่าจัดเต็มเพื่อประสบการณ์การฟังที่มีความสมจริง ด้วยไดรเวอร์เสียงภายในที่มีมากถึง 9 ตัวที่ทาง Bose จัดวางมาเป็นอย่างดีเพื่อการขับเสียงที่ให้ทิศทางที่สมจริงมากที่สุด โดยไดรเวอร์เสียง 2 ตัวจาก 9 ตัวนั้นคือไดรเวอร์ที่ยิงเสียงขึ้นเพดานหรือไดรเวอร์ที่อยู่บริเวณตะแกรงด้านบนของตัวลำโพง พร้อมปรับจูนเสียงมาเป็นอย่างดีเพื่อการรองรับระบบเสียง Dolby Atmos® อย่างเต็มรูปแบบโดยที่ไม่จำเป็นต้องต่อลำโพงเพิ่มเติม นอกจากนี้ตัวลำโพงยังมาพร้อมระบบเสียง Bose TrueSpace™ ตอบโจทย์การใช้งานเสียงในระบบเสียง Stereo และ Surround 5.1 อีกด้วย โดยจากการทดสอบรายละเอียดเสียงโดยรวมของ ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 พูดได้เลยว่าเป็น Soundbar ที่ให้เสียงได้ยอดเยี่ยมมากๆ อีกรุ่นหนึ่งที่โดดเด่นมากๆ คือการที่เป็น Soundbar เดี่ยวๆ ไม่ต้องต่อ Surround หรือ Subwoofer เพิ่ม แต่ให้เสียงที่ครบเครื่องและรอบทิศทางแบบสมจริงดังนี้

เสียงกลาง: เสียงย่านกลางออกโปร่ง เนื้อเสียงมีความเคลียร์ ใส และสว่าง โทนเสียงออกเย็น เนื้อเสียงอิ่มฟังง่ายครับ สำหรับทิศทางเสียงด้วยการจัดวางไดรเวอร์ภายในที่เรียงมาเป็นอย่างดี ทำให้ทิศทางเสียงที่ได้แยกจากกันมากขึ้นแบบชัดเจน ทิศทางเสียงนั้นทำได้กว้างมากๆ และยิ่งเมื่อใช้งานกับระบบเสียง Dolby Atmos เสียงก็จะยิ่งกว้างขึ้นกว่าเดิมอีก ทั้งซ้าย-ขวา และด้านบน งานนี้บอกเลยว่าใครที่ชอบดูหนังเน้นบรรยากาศกว้างๆ ได้ยินเสียงลมพัดมาจากทุกทิศทาง ต้องถูกใจ Bose Smart Soundbar 900 แน่นอน

เสียงแหลม: ย่านแหลมมีความใสและสว่างมากๆ ตามสไตล์ของ Bose เนื้อเสียงมีรายละเอียดเยอะและขับออกมาได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเสียงเดินฉึบฉับ หรือเสียงแก้วแตกก็ให้รายละเอียดที่คมชัด ทอดได้ไกล ไล่ตัวโน๊ตได้ไม่ผิดเพี้ยน และแจกแจงทิศทางได้สมจริงแบบสุดๆ

เสียงเบส: ในส่วนของย่านเบสต้องขอบคุณการจัดวางไดรเวอร์ภายในตัวลำโพง Bose Smart Soundbar 900 ที่มีการคิดมาเป็นอย่างดี ทำให้เสียงเบสที่ได้นั้น กระหึ่ม ลงได้ลึกถึงใจ พื้นสั่นสะเทือนอารมณ์ใกล้เคียงกับฟังในโรงหนัง มวลเบสลูกใหญ่รายละเอียดครบถ้วนทั้ง Mid และ Deep Bass ยิ่งเป็นเสียงระเบิดตูมตามต้องบอกเลยว่าเก็บได้ครบทุกเม็ด เหมือนต้นกำเนิดเสียงเหล่านั้นมาอยู่ข้างหน้าเลยทีเดียว

เวทีเสียง: เวทีเสียงและมิติเสียงมีขนาดใหญ่ มิติเสียงมีความกว้าง จัดวางเครื่องดนตรีและให้แหล่งกำเนิดเสียงได้อย่างเป็นระเบียบ และเว้นที่ระหว่างกันได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่ว่าจะฟังมุมไหน หรือฟังเพลงแนวใดก็ไม่มีอาการเครื่องดนตรีทับกันหรือเสียงปนกันจนมั่วมากวนใจเลยแม้แต่น้อย รวมถึงเรื่องทิศทางในการรับชมภาพยนตร์ที่ทำได้ดีมากๆ ซ้าย-ขวา ด้านบน ที่แจกแจงแยกออกจากกันอย่างอิสระ หากหลับตาฟังก็แทบแยกไม่ออกเลยว่าเสียงทั้งหมดนี้ออกมาจากลำโพง Soundbar ตัวเดียวโดดๆ

แนวเพลงที่เหมาะสม: Pop / Classic / Hip-Hop / Jazz

ส่วนด้านการดูหนังก็ให้ทิศทางเสียงที่สมจริงทั้งซ้ายและขวาและเสียงจากด้านบนในขณะที่มีเสียงเครื่องบินหรือแหล่งกำเนิดเสียงผ่านจากด้านบนไป โดยที่ไม่ต้องต่อ Surround เพิ่ม ส่วนรายละเอียดเสียงก็ให้มาแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงลม เสียงใบไม้ปลิว เสียงเดิน ไปจนเสียงแก้วแตก และเสียงระเบิดต่างๆ ที่ให้ความรู้สึกสมจริงเหมือนอยู่ตรงหน้า และหากหลับตาก็ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับดูในโรงหนังมากๆ ไม่ต้องไปถึงโรงหนังแค่ดูหนังจาก Netflix ที่บ้านก็ให้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกันครับ

แนวภาพยนตร์ที่เหมาะสม: Action / Adventure / Sci-Fi

สรุป ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 เหมาะกับใคร?
ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 ราคาอยู่ในระดับพรีเมียม ซึ่งเมื่อเทียบกับมาตรฐานของแบรนด์ Bose ทั้งการออกแบบ ฟังก์ชันการใช้งาน แนวเสียง และระดับความเป็นเรือธงของตัวสินค้าก็ต้องบอกเลยว่าราคาไม่สูงจนเกินไปอย่างแน่นอน โดย ลำโพง Bose Smart Soundbar 900 เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหา ลำโพง Soundbar อัจฉริยะ ที่มาพร้อมสเปคแบบจัดเต็มและครบครัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการเชื่อมต่อที่ครบครันไร้สายมีสาย ตอบโจทย์การใช้งาน Streaming อย่างครบครัน สั่งการได้ง่ายดายผ่านเสียงด้วยผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะภายในตัว และที่โดดเด่นที่สุดคือระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos ที่สามารถขับเสียงได้อย่างครบถ้วนทุกมิติเสียงแบบครบจบในตัวลำโพง Soundbar ตัวเดียว ไม่ต้องต่อลำโพง Surround หรือ Subwoofer เพิ่ม นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อเข้ากับลำโพงและหูฟัง Bose แบบไร้สายอีกด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้ราคาเท่านี้ถือว่าคุ้มค่าไม่สูงเกินไปครับ ใครที่มีพื้นที่ในบ้านน้อยและอยากได้ลำโพงดูหนังแบบครบจบในตัวโดยไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ รวมถึงไม่ต้องต่อลำโพงเยอะก็ได้ประสบการณ์เสียงแบบเดียวกันกับในโรงภาพยนตร์ก็ต้องห้ามพลาดครับ

ติดดตามข่าวสารวงการเกมและอื่นๆ ได้ที่ : inwesport

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : mercular.com

ลิงค์รูปภาพ :

1. ภาพจาก : mercular.com

2. ภาพจาก :mercular.com