[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
link banner
e-Learning

ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 21 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
รีวิวหนัง “The Son” สัมพันธ์ด่ำดิ่ง..รวดร้าว  VIEW : 224    
โดย 123

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 424
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 16
Exp : 68%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 125.27.137.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 2 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 เวลา 16:09:22    ปักหมุดและแบ่งปัน

รีวิวหนัง “The Son” สัมพันธ์ด่ำดิ่ง..รวดร้าว แทบลงไปนอนกองที่พื้นโรงหนัง

อีกหนึ่งผลงานหนังดราม่าสุดจัดจ้านทางการแสดงของผู้กำกับที่โดดเด่นกับการร้อยเรียงประเด็นครอบครัวได้อย่างช่ำชอง อย่าง “ฟลอเรียน เซลเลอร์” นักสร้างหนังที่เคยปังสุด ๆ มากับหนังชิงออสการ์ อย่าง The Father และมาล่าสุดใน “The Son” ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังภาคต้นจากเรื่องที่แล้ว ที่ยังคงเน้นกับการใส่เนื้อความเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวได้อย่างลึกซึ้งและเจ็บปวด ซึ่งต้องบอกตรง ๆ เลยว่าหนังเรื่องทำปฏิกิริยากับผู้ชมอย่างด่ำดิ่ง ชนิดที่แทบจะลงไปนอนกองที่พื้น

The Son เล่าเรื่องราวของ ปีเตอร์ กำลังยุ่งอยู่กับชีวิตหน้าที่การงานของเขา รวมทั้งการดูแลภรรยาคนปัจจุบัน เบธ กับลูก ๆ ของพวกเขา กระทั่งการปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งของ เคต อดีตภรรยาที่มาพร้อมกับ นิโคลัส ลูกชายที่เติบใหญ่เป็นวัยรุ่น ทำให้ชีวิตของปีเตอร์ต้องเผชิญหน้ากับช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้ง ในการรับมือกับอดีตที่เขาเคยเดินจากมา และบัดนี้ได้ไล่ติดตามถึงตัวเขาอีกครั้ง

หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากฉบับละครเวที (Le Fils) ที่ ฟลอเรียน เซลเลอร์ เป็นผู้ประพันธ์และสร้างเอาไว้ เมื่อปี 2018 โดยเขาหยิบจับเอาบทละครมาขัดเกลาปั้นออกมาเป็นบทหนังที่เต็มไปด้วยความคมคายเกี่ยวกับความสัมพันธ์และปัญหาในครอบครัวได้อย่างบรรจงสร้าง บาดเจ็บไปด้วยการแสดงของนักแสดงหลัก ๆ เพียงไม่กี่คน แต่เต็มไปด้วยความทรงพลัง เป็นหนังที่สอดแทรกประเด็นได้อย่างหนักอึ้งและสะท้อนปัญหาปัจจุบันของความเป็นครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ถึงแม้ว่าเสียงวิจารณ์จากเหล่านักวิจารณ์ทั่วโลกจะไม่ได้ประทับใจในหนังเรื่องนี้กันสักเท่าไหร่ เพราะความที่เป็นหนังสไตล์เมโลดราม่าที่ไม่ได้เหนือการคาดเดาอะไรสักเท่าไหร่ แต่ไม่ว่าใครจะไม่ชอบ แต่ทางเราชอบหนังเรื่องนี้ในระดับน่าพอใจ ถึงมันอาจจะยังไม่ใช่หนังที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อย ๆ The Son ก็สร้างปฏิกิริยาและขับเคลื่อนอารมณ์ให้กับผู้ชมไปได้ด้วยดี ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้

บทหนังในเรื่อง The Son นั้น คือถ้าใครเป็นผู้เสพสายละครเวที หรือ Performance Art มานั่น จะสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่า หนังยังมีความเป็นละครเวทีปะปนอยู่เต็มไปหมด เหมือนหยิบการแสดงบนเวทีมาร้อยเรียงเป็นช็อต ๆ เรียบเรียงเป็นเรื่องเดียวกันออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ และก็เป็นไปตามที่นักวิจารณ์บอกกันว่าบทหนังไม่ได้มีอะไรที่เหนือการคาดเดา เพราะถ้าลองตามดูไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ได้จะเดาทิศทางของหนังได้ยากเท่าไหร่ บทสรุปและจุดหักมุมต่าง ๆ มีความเป็นแอคติ้งสเตจตามสูตร

รีวิวหนัง "The Son" สัมพันธ์ด่ำดิ่ง..รวดร้าว แทบลงไปนอนกองที่พื้นโรงหนัง

ทางด้านงานสร้างของหนังเรื่องนี้ ดูเหมือนว่า ฟลอเรียน เซลเลอร์ ก็ยังคงนำเสน่ห์และวิสัยทัศน์ที่คุ้นเคยของเขามาใช้อยู่เช่นเดิม หลายประองค์ในหนังเรื่องนี้ยังทำให้หนึ่งถึง The Father ผลงานเรื่องก่อนอยู่ประปราย มุมภาพ มุมกล้อง และวิธีนำเสนอต่าง ๆ ของ The Son ยังเน้นไปที่การโฟกัสแบบโคสอัพตัวละครที่กำลังสื่อสารอารมณ์อยู่ได้อย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าจะไม่ใช่เทคนิคที่แปลกใหม่ และออกจะดูธรรมดาไปหน่อย แต่ก็ถือว่ายังเป็นสูตรเดิมที่เวิร์กกับตัวหนังดีอยู่

ส่วนพาร์ททางการแสดงก็ถือว่าไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย “ฮิวจ์ แจ็คแมน” คือแบกรับและตีโจทย์ออกมาได้ดีตามมาตรฐานของเขา แม้ว่าแอคติ้งของเขาจะไม่ได้ทรงพลังยิ่งยวดอะไรขนาดนั้น แต่จัดได้ว่าสื่อสารทางอารมณ์ออกมาได้ดี ทั้งผ่านอากัปกิริยาและไดอะล็อกต่าง ๆ เขาทำได้น่าพอใจ เป็นการแสดงที่ดีในมาตรฐานไปถึงรางวัลได้ เพียงแต่ต้องมาดูว่าคู่แข่งในปีนั้น ๆ จะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่ายังมีคนอื่น ๆ จากเรื่องอื่นที่ดีกว่า

ขณะที่ “ลอร่า เดิร๋น” กับ “วาเนสซา เคอร์บี้” ก็ถือว่าเป็นตัวละครที่ละสายตาไปไม่ได้เช่นกัน พวกเขามอบการแสดงที่น่าพอใจและดีตามมาตรฐานของตัวเองเช่นเดียวกัน หรือแม้กระทั่ง “แอนโทนี ฮอพกินส์” ที่ตำนานก็ยังคือตำนาน ออกมาแค่เพียงซีนเดียวใหญ่ ๆ ก็ทรงพลังได้อย่างน่าขนลุก และคนที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือ “เซน แม็คกราธ” นักแสดงหนุ่มดาวรุ่งหน้าใหม่ ที่ชั่วโมงบินอาจจะยังน้อย แต่ลีลากการเข้าถึงบทดราม่าของเขาก็จัดได้ว่า..จัดจ้านดี

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว The Son ถือว่าเป็นหนังดราม่าที่เต็มไปด้วยข้อความที่ทรงพลังดี สะท้อนถึงปัญหาสังคมและครอบครัวได้อย่างรวดร้าว การเล่าเรื่องที่ง่าย ๆ ออกไปทางละครเวทีเรื่องยาวที่ยังทำได้ตรึงใจดี กับการแสดงของนักแสดงมืออาชีพที่ช่วยประคองตัวหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างดี แม้ว่าหนังจะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์ในทุกด้านก็ตาม และบทหนังก็ยังค่อนข้างธรรมดา ไม่เกินที่คาดเดามากนัก แต่แค่ประเด็นของหนังที่ต้องการสื่อสารออกมานั้น ก็ถือว่าสามารถซื้อใจและทำให้รู้สึกเหนี่ยวรั้งอารมณ์ขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึงฉากจบของเรื่อง

 ดูหนัง

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Son

ประเภท: ดราม่า / ครอบครัว
ผู้กำกับ: ฟลอเรียน เซลเลอร์
นำแสดงโดย: ฮิวจ์ แจ็คแมน, ลอร่า เดิร์น, วาเนสซา เคอร์บี้
ความยาว: 123 นาที
กำหนดฉายในไทย: 26 มกราคม 2023 (เฉพาะที่ House สามย่าน)
Movie.TrueID METRIC: The Son

ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)
การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)
บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)

ขอบคุณแหล่งที่มา : entertainment.trueid.net


ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net





ปั้มไลค์ราคาถูกปั้มไลค์ราคาถูกเม้นโพสnew-like.comปั้มวิวเพิ่มผู้ติดตามเพิ่มการเข้า้ถึงcybersafenetflix ราคาถูกปั้มไลค์ขายยูทูปพรีเมี่ยม