ชทพ.ชูบทบาทด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด

โลกยุคดิจิทัลเปลี่ยนแปลงด้วยอัตราเร่งทวีคูณ แต่การหาเสียงของพรรคการเมืองหลายพรรคยังวนเวียนในรูปแบบเดิมๆ แทบไม่ต่างจาก 4 ปีก่อน เล่นมุกเกทับกันด้วยสวัสดิการและยอดเงินช่วยเหลือที่จะแจกให้ชาวบ้านแต่ละกลุ่ม ถ้าผู้นำยังไม่ปรับวิธีคิดและวิธีปฏิบัติ ต่อให้เปลี่ยนอีกกี่นายกฯ เปลี่ยนอีกกี่รัฐบาล ไทยก็ตามเมกะเทรนด์ทั่วโลกไม่ทัน

ผู้นำแห่งศตวรรษที่ 21 ทุกประเทศไม่มีใครไม่พูดเรื่อง สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เพราะเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อมนุษยชาติ และสะเทือนทุกประเทศไม่ว่ามหาอำนาจหรือประเทศยากจน ล้วนโดน Climate Change เล่นงานอย่างรุนแรง

ในขณะที่นักการเมืองระดับแกนนำของไทยมีเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจและทุ่มเทกับการทำงานด้านนี้อย่างจริงจัง ที่เห็นโดดเด่นที่สุดคือ “รมต.ท็อป” คุณวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในเฟซบุ๊กและติ๊กต่อกของ รมต.ท็อปจะอัปเดตข้อมูลการทำงาน ปูพื้นสร้างความเข้าใจด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และแนะนำวิธีสร้างรายได้ในยุคเศรษฐกิจสีเขียวอยู่เสมอ

ไม่น่าเชื่อว่าพรรคเล็กอย่างชาติไทยพัฒนาจะคิดใหญ่และเด็ดเดี่ยว เจาะจงขายความเป็น พรรคด้านสิ่งแวดล้อม รู้ทั้งรู้ว่าการชูเรื่องสิ่งแวดล้อมมาหาเสียงจะไม่ปัง ไม่เปรี้ยงปร้าง แต่แนวทางที่นำเสนอออกมาเปรียบเหมือน การวางยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายหลักมี 10 ข้อ เป็นนโยบายเชิงรุก ไม่ใช่นโยบายแก้ปัญหาแบบเดิมๆ ไม่เน้นแก้ปัญหาจุกจิก

แม้ผลสำรวจความนิยมที่ผ่านมาอาจไม่ติดโพล แต่ในสายสิ่งแวดล้อมถือว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีความเด่นชัดที่สุด รมต.ท็อปพูดย้ำตลอดว่า สิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องของเราทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ เป็นเรื่องของอนาคตที่เราจะทิ้งโลกใบนี้ให้ลูกหลานอย่างไร มันไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด ถ้าไม่รักษาสิ่งแวดล้อมไว้ในวันนี้ ก็ไม่ต้องพูดถึงประเด็นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เพราะเมื่อถึงจุดนั้นมนุษย์ก็ตายไปหมดแล้ว

สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีความสำคัญต่อทุกเรื่อง

เริ่มตั้งแต่ ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติอันงดงาม ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นสัดส่วนเกือบ 20% เรามีอุทยานแห่งชาติทั้งทางบกและทางทะเล 155 แห่ง นี่คือสมบัติของชาติที่ต้องช่วยกันหวงแหนรักษา เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

ด้านเศรษฐกิจ ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสีเขียวมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เห็นชัดเจนคือเรื่องสิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานการส่งออก ทั้งภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และเกษตร ต้องเตรียมพร้อมรับมือ

ด้านการศึกษา ในอนาคตจะมีหลักสูตรวิชาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ องค์ความรู้เรื่องเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อรับรองโลกยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ด้านเทคโนโลยี ปัจจุบันการคิดค้นเทคโนโลยีต่างๆมุ่งเน้นไปสู่การทำให้โลกสะอาดขึ้น เป็นมิตรกับมนุษย์ ทำให้มีชีวิตยืนยาวมากขึ้น อยู่ในสภาพแวดล้อมที่หายใจได้เต็มปอด ไร้มลพิษ

ด้านสาธารณสุข เมื่อสิ่งแวดล้อมดี ปลอดมลภาวะ สุขภาพกายและใจก็จะดี ทุกคนแข็งแรง ไม่เป็นภาระด้านงบประมาณ

ด้านวัฒนธรรม ท่ามกลางการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ต่างๆ ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง หนาวยะเยือก เราจะรักษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตคนไทยให้เชื่อมโยงกับสภาพสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไร

ด้านสังคม ปลูกฝังค่านิยมที่คิดถึงส่วนรวมให้ลูกหลานในการรักษาสิ่งแวดล้อม

เห็นไหมครับว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องกับทุกอย่างรอบตัว เราเรียกร้องกันตลอดว่าอยากได้ผู้นำเป็นคนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์ นำพาประเทศไทยเชิดหน้าชูตาได้ ผมก็อยากได้เหมือนกันครับ นักการเมืองที่มองภาพโลกอนาคตได้แจ่มชัด และปรับโครงสร้างพื้นฐานให้ไทยให้ไม่น้อยหน้าใครในเวทีโลก.

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.thairath.co.th

ติดตามข่าวสาร ได้ที่  : thaigoodherbal.com